ที่ใช้ในการวาดรูปนะคะ
ข้อความต่อไปนี้เป็นความเห็นของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว บางท่านบางคนอาจจะไม่เห็นด้วย ก็แล้วแต่นะคะ เพราะเหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับความถนัดส่วนตัวของแต่ละคนค่ะ
เรามาเริ่มกันเถอะ~~
Q: เวลาจะวาดรูป ใช้อะไรบ้าง
เรามาเริ่มกันที่คำถามนี้เลย...
เวลาจะวาดรูป ถ้าวาดเล่นๆ ชิลๆ สบายๆ ขอมีกระดาษกับอะไรสักอย่างที่เขียนได้ก็พอ
แล้วไอ้อะไรสักอย่างที่เขียนได้นี่มันมีอะไรบ้าง
ทีนี้ละจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนแล้ว บางคนถนัดดินสอ บางคนถนัดปากกา คนนึงถนัดจีเพน อีกคนถนัดดินสอถ่าน (ที่ว่ามาเราได้หมด เหอๆๆ) เพราะยังงั้นจะร่ายให้ทีละอย่างไปละกันนะคะ
เริ่มที่อุปกรณ์เบสิกสุดๆ ที่ทุกคนเคยจับมาแล้วแน่นอน
มันคือ....
ใช่แล้วครับ
ดินสอไม้~~~!!!!!!!!
เราใช้ดินสอไม้ตั้งแต่ร่าง ลงเส้น แรเงา เขียนรายงาน บลาๆๆๆ จนตอนนี้ม.สี่แล้วยังไม่เลิกใช้ดินสอไม้เลย
ส่วนใหญ่ที่เห็นกันและเราแนะนำ (ใช้อยู่และเห็นผลดี) จะเป็นยี่ห้อ Staedtler...ซะเต้ดเล่อ ==; (ภาษาเยอรมันนี่อ่านยากเว้ยเฮ้ย) ที่วางเรียงเป็นชั้นๆ แท่งสีน้ำเงินๆ ตูดดินสอสีดำอ่ะ
ทั้งที่เป็นสีน้ำเงินยังงี้

ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่สีน้ำเงินจะเป็นดินสอทำข้อสอบ แบบขายตามสหกรณ์โรงเรียนอ่ะนะ ทำเป็น 2B เสียเป็นส่วนใหญ่
ไอ้สีน้ำเงินข้างบนเกรดมันดีกว่า...ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ...หน้าตาดีกว่าด้วย
ไม้มันนิ่มกว่ากันเยอะนะ พอเหลากับคัตเตอร์เนี่ยรู้เลย
แบบสีน้ำเงินเนี่ยจะมีหลายเฉดให้เลือก ตั้งแต่ 9H ยัน 9Bเลยทีเดียว
(น่าจะรู้กันแล้ว แต่ความเข้มของดินสอเนี่ยขึ้นอยู่กับอัตราส่วนระหว่างแกรไฟต์กะดินเหนียวที่ยัดผสมทำใส้ดินสอ
ยิ่งใส่แกรไฟต์มาก ใส้ดินสอก็จะเข้มมากและนิ่มมาก ยิ่งใส่ดินเหนียวมาก ใส้ดินสอก็จะอ่อนมากและแข็งมากไปตามๆกัน
โดย H จะอ่อนกว่า B Hเนี่ย ยิ่งเลขมากยิ่งอ่อน ส่วน B ยิ่งเลขมากยิ่งเข้ม)
แนะนำว่าเลือกดินสอเนี่ย เราไม่ได้เป็นมืออาชีพ ไม่ต้องมีทุกเบอร์เก็บไว้หรอก ^^; เพราะน้อยมากที่จะได้ใช้เก้าเฮช หรือเก้าบี
โดยส่วนตัวแล้วมีแค่ สองบี กับ หกบี สองแท่งเท่านั้นเอง
แต่วาดแล้วก็ออกมาสวยนะ แล้วปรกติตอนวาดก็ใช้แค่แท่งเดียววาดด้วย ประมาณว่าลืมเปลี่ยน
เอาสองบีร่าง แล้วก็เอาหกบีแรเงาอ่ะ แล้วเราก็ใช้วิธีกำหนดแรงกดเอา
(ไว้จะฮาวทูให้อีกที)
โดยส่วนตัว(อีกที) ไม่ชอบดินสออ่อนๆ บางคนบอกว่าเอาไว้ร่างภาพไง...แต่จะบอกอะไรให้
ไอ้อ่อนๆ แข็งๆน่ะ ร่างแล้วกระดาษมันเป็นรอยเด้อค่ะ!!!!
แล้วเวลาเราแรเงาเนี่ย มันก็จะเห็นรอยร่างอ่ะค่ะ เป็นรอยดินสอเหมือนเวลากดแรงๆลบแล้วเหลือรอยอ่ะ
แบบว่าหมดสวยเลยนะ เราก็เลยไม่ค่อยได้ใช้
แล้วนี่รู้รึเปล่าว่าดินสอน่ะมีสองแบบนะเออ
ที่พูดไปนี่คือดินสอแกรไฟต์ คือดินสอที่ใช้แกรไฟต์ทำใส้
จะมีอีกแบบคือดินสอคาร์บอน หรือที่เขาเรียกดินสอถ่าน
ยกตัวอย่างง่ายๆเลยก็ดินสอ EE นี่ล่ะดินสอถ่าน
ถามว่าแยกยังไงว่าไหนดินสอแกรไฟต์ ไหนดินสอถ่าน
ให้ลองฝนๆๆๆกับกระดาษนะ แล้วส่องกับไฟ
ดินสอแกรไฟต์จะสะท้อนแสง เป็นเงาวับ
แต่ดินสอคาร์บอนจะด้าน ลองสังเกตดูนะ
ต่อ...ต่อที่ปากกา
ปากกานั้นมีหลายแบบ แตกต่างกัน
แต่แบบที่ใช้ประจำนั้นคือปากกาลูกลื่น
อย่าเถียงว่าไม่มีใครเขาใช้วาดกันหรอก...เราใช้เค่อะ
ถ้าเกิดตอนนั้นมีปากกาอยู่แท่งเดียว มีอะไรก็วาดหมดแล้วล่ะงานนี้
ปากกาลูกลื่นที่เราใช้ เราใช้ของ Mitsubishi Pencil มิตซูเพนมีทั้งลูกลื่น หัวเข็ม และทำดินสอกดด้วย
แบรนด์นี้ทนมือทนตรีน รับประกันค่ะ
เป็นปากกาหมึกเจล(มั้ง) สีส้ม น้ำตาล ชมพู เราซื้อปลอกสีดำมาใส่ใส้สี สวยดี (แต่แพงว่ะ)
ก็กลายเป็นปากกาหลากสีในแท่งเดียว วันๆนึงก็พกแท่งนี้แหล่ะเดินร่อนไปรอบโรงเรียน
แต่ปรกติแล้ว ปากกาแท่งละเจ็ดบาทสหกรณ์ฯก็ใช้ได้ วาดได้
ก็แล้วแต่คนถนัดอีกเหมือนกันล่ะนะ
นอกจากปากกาลูกลื่นแล้วก็มีปากกาหัวเข็ม หรือที่เขียนที่ด้ามว่า Pigma (เอ๊ะหรือว่าเป็นชื่อยี่ห้อ?)
ถ้าไปตามแผนกเครื่องเขียนให้ดูป้าย "fine-liner' "ปากกาหัวเข็ม" "ปากกาเขียนแบบ" แล้วแต่จะเรียกกัน
ปากกาพวกนี้จะกันน้ำ เขียนแล้วติดทนทาน ตกน้ำไม่ไหลตกไฟยังไงก็ไหม้ คงทน ค่อนข้างทนทาน ใช้ได้นานถ้าไม่ทำหัวปากกาแตกซะก่อน แต่ข้อเสียของมันคือถ้าใช้ยางลบลบเส้นจะจืดจาง และถึงมันจะแห้งไวยังไง ถ้าใช้ยางลบปาดทันที อาจเกิดโศกนาฏกรรมได้
หน้าตาของมันเป็นเช่นนี้
โดยส่วนตัวเราใช้ Uni pin ของ Mitsubishi Pencil เช่นเดิม
(สีดำๆข้างล่างนี่)
ปากกายี่ห้อนี้ทนจริงๆนะ
เคยเปิดฝาทิ้งไว้ค่อนคืน (เผลอหลับตอนวาดรูป) ตื่นมารีบปิด ปรากฏว่ายังพอเขียนได้อยู่ (แต่ไม่สนับสนุนให้ลอง เพราะสนนราคาค่อนข้าง...อืม...)
ที่ใช้ก็เบอร์ 0.5 กับ 0.8
ราคาของปากกาหัวเข็ม(เขียนแบบ)นี่จะอยู่ที่ประมาณ 35 - 55 บาท
มิตซูคุงเนี่ยจะอยู่ที่สี่สิบห้าบาท ส่วนอีกยี่ห้อที่น้าเราซึ่งเป็นมัณฑนากรเคยใช้เขียนแบบคือยี่ห้อ ซากุระ
สีน้ำตาลยังงี้...แท่งละห้าสิบห้าบาท แพงกว่า แต่รู้สึกว่าเส้นจะเข้มกว่า อันนี้ก็แล้วแต่คนใช้อีก
ปากกาหัวเข็มอย่างนี้เขียนค่อนข้างยาก...ต้องกะแรงกดดีๆ กดเบาไปก็ไม่ติด กดแรงไปหัวปากกาแตก ==;
ก็ต้องลองดูๆกันไป ฝึกด้วยอันที่ถูกหน่อยก่อน ถนัดแล้วค่อยอัพราคาดีกว่า
แล้วก็ ปากกาหัวเข้มนี่ ไม่สามารถรับแรงกด...คือยังไงล่ะ เขียนได้แต่เส้นที่มีความหนาเดียวกันตลอดเส้น
คุณจะตวัดยังไง คุณก็ทำให้ปลายเรียวเหมือนใช้จีเพนวาดไม่ได้ ถึงจะทำได้ ก็ไม่สวยเท่าจีเพน (เพราะตวัดแล้วเส้นจะขาดตอน ไม่สวย)
ด้วยคุณสมบัติอันนี้ ปากกาหัวเข็มจึงสามารถใช้วาดการ์ตูนหัวโต วาดSD (หัวโตตัวลีบเป็นโปลิโอ) ได้ดีมาก
เพราะมันเป็นการ์ตูนไง...เราก็ใช้หัวใหญ่ตัดเส้นโครงร่าง ใช้หัวเล็กลงมาตัดผม แล้วก็หัวเล็กที่สุดลงรายละเอียด จบข่าว
อีกหนึ่งปากกาที่เป็นที่สุดของตำนานนักเขียนการ์ตูนคือ
จีเพน~!!!!!!!!!!!!
ซึ่ง...แถวบ้านตรูเรียกคอแร้งค่ะ...มันไม่ต่างอะไรกับคอแร้งเรย ==;
เหมือนปากกาขนนกของแฮร์รี่ พอตเตอร์อ่ะแหล่ะ
ซึ่ง อีหัวปากกาเนี่ยมันเป็นโลหะ ดังนั้นหากคุณทำการจิ้มจุ่มหมึกแล้วไม่ทำความสะอาด มันจะเป็นสนิม และนำมาซึ่งความฉิบหายของปากกาได้ (ก็ต้องซื้อใหม่เท่านั้นเอง)
เราใช้ด้ามไม้ของ Sekai (ยี่ห้อนี้ทำอุปกรณ์สวย และแพง) หัวปากกาซื้อที่พารากอน ชั้นเครื่องเขียน
(ชั้นเครื่องเขียนพารากอนเป็นอะไรที่ต้องไปเดินให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิตนะ แบบว่าเริ่ดมาก สำหรับคนที่ไม่รู้ มันอยู่ชั้นเดียวกับคิโนะคุนิยะอ่ะแหล่ะ ประตูอยู่ถัดจากคิโนะไปทางซ้าย)
ส่วนหมึกที่ใช้กับปากกานี้...มีสองชนิด
คือหมึกกันน้ำ กับหมึกไม่กันน้ำ
และช่วงชีวิตนี้ยังไม่เคยเห็นหมึกกันน้ำมาก่อนเลย ==; หายังไงก็หาไม่ได้
เดี๋ยวจะขึ้นเรื่องหมึกต่ออีกหนึ่งตอน
กรุณาติดตามตอนต่อไปค่ะ
No comments:
Post a Comment